子どもが失敗したり、友だちとトラブルを起こしたとき、
私たちは叱るのではなく、「本当は何をしたかったのか」を一緒に考えるようにしています。
なぜなら、失敗やつまずきは子どもにとって “成長のチャンス” だからです。
Kitamura House では、EF(Executive Function=実行機能)の発達を大切にしています。
叱るのではなく、深く話し合い、気づきへ導き、子どもが自信を持って前に進めるよう支援します。
子どもが失敗したとき、私たち大人はつい「どうしてそんなことしたの!?」と言ってしまいがちです。
でも、大切なのは大人がまず落ち着いて、やさしく耳を傾けることです。
こうした問いかけは、子どもが自分の気持ちに気づき、自己理解を深める手助けになります。
たとえば、友だちのおもちゃを取ってしまった子も、実は「おもちゃで遊びたかった」だけで、どう誘えばいいのかわからなかっただけなのかもしれません。
🙆これはとても大切なステップです🙆
子どもがやりたいことを話し始めたとき、まずこう声をかけましょう:
✅ 「それをやってみたかったんだね、いいよ。」
こうした言葉は、子どもの心を開き、安心して聞く耳を持てるようになります。
「自分の気持ちが否定されていない」と感じられるからです。
そのあとで、次のように問いかけします:
「じゃ、それをするためには、どうしたらいいと思う?」
これは信頼関係を築き、子どもが落ち着いて考えられる土台をつくります。
子どもの心が落ち着いたら、一緒に他の方法について考えてみましょう。
✅ 「もしそれをしたいんなら、どうしたらいいと思う?」
正解を与えることが目的ではありません。
子ども自身に考える機会を与えることで、実体験から学べるのです。
これは「分析力」「問題解決力」といったEFスキルのトレーニングになります。
たとえば、「友だちのおもちゃで遊びたい」ときは「そのおもちゃで遊びたいんだね、いいよ。じゃ、どうしたらいいと思う?いっしょに遊ぼうって言ってみようか?」という声かけもできます。
トラブルが落ち着き、子どもが気持ちを整理できたら、もう一度ふり返ってみましょう:
子どもが素直に「ごめんなさい」と言えた時は、
自分の誤った行動を認識し、責任をとる覚悟ができたという証です。
その時は、その覚悟を認めてあげて、自信につなげてあげましょう。
大人のこうした言葉は、子どもの
を育み、社会の中で他人と共に生きていくための大切な力を育みます。
子育てに完璧な正解はありません。
時には感情的になってしまうこともあるでしょう。
でも、あとで子どもと話しながら、
「次はどうすればいいかな?」
とふり返ることができれば、親も一緒に成長していけますね。
Kitamura House では、日々のコミュニケーション、傾聴、そして許しを通して、
子どもと共に学び合う日々を大切にしています。
これだけで、子どもの心に大きな変化が生まれます。
「失敗」は「ダメなこと」じゃない。それは 「学びのチャンス」です。
私たちが「子どもは変われる・学べる存在だ」と信じるなら、子どもに寄り添い、あたたかい心で成長を支えることができます。
さあ、今日から始めてみませんか?💛
📲 園見学・無料体験をご希望の方はこちらまで
👉 087 484 7887
キタムラハウスは、バンコク・ラートクラバン地区にある、1歳から12歳までを対象としたインターナショナルスクールです。日本の教育理念と多言語・多文化環境を融合させ、「思いやり・自立・創造力」を育む保育・教育を実践しています。
カテゴリー | 内容例(キーワード強調) |
---|---|
言語教育 | 日本語、英語、タイ語(読み書き・会話) |
基礎科目 | 算数、科学、生活、そろばん、EF育成 |
芸術・表現 | ピアノ、ドラム、ギター、ダンス、アート |
スポーツ教育 | 体操、テコンドー、スポーツスタッキング |
STEM/ICT | レゴロボティクス、プログラミング、AI初級 |
ソーシャルスキル | グローバルマナー、感情コントロール、道徳教育 |
「タイ語だけでなく、日本語・英語も話せるようになり、将来の選択肢が広がりました」
「きちんとあいさつ・お片付けができる子に成長して感動しています」
「幼少期から非認知スキルをしっかり育ててくれるので、小学校以降の成長が違います!」
ทักษะชีวิตที่ไม่ใช่ความรู้ในตำรา แต่คือ "ทักษะชีวิตแท้จริง" ที่ช่วยให้เด็กๆ เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ และรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ลูกเคยไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้พูดต่อหน้าคนอื่นอย่างมั่นใจ”
“ลูกยอมรอคิว ยอมฟังเพื่อนมากขึ้น และมีน้ำใจมากขึ้นชัดเจน”
งานวิจัยจาก OECD และกระทรวงศึกษาธิการหลายประเทศยืนยันว่า ทักษะที่ไม่ใช่วิชาการ มีผลกับความสำเร็จในชีวิตมากกว่าความรู้ล้วนๆ
และช่วงวัยอนุบาล – ประถมต้น คือช่วง "ทอง" ที่สมองพัฒนาเร็วที่สุด จึงควรปลูกฝังตั้งแต่วันนี้
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการพื้นที่ให้ลูกได้
“เติบโตเต็มศักยภาพทั้งภายในและภายนอก”
คิตามูระเฮ้าส์
พร้อมเป็นครอบครัวที่เดินเคียงข้างการเรียนรู้ของลูกค่ะ 🌷
ปลุกพลังการเรียนรู้จากภายใน ผ่านประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับโลกจริง
เด็กๆ ได้เรียนรู้จากครู ผู้เชี่ยวชาญ วิทยากร หรือบุคคลต้นแบบในชีวิตจริง เช่น แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักแสดง หรือนักดนตรี ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจจากแหล่งความรู้ที่แท้จริง
ไม่ใช่แค่ภาพในหนังสือ แต่เด็กได้สัมผัสกับของจริง เช่น พืชผัก อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เครื่องดนตรี หรือสิ่งของในชีวิตประจำวัน เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและการคิดเชิงสร้างสรรค์
เด็กได้เผชิญและแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น การซื้อตั๋วรถไฟ การจัดการเงินค่าขนม หรือการดูแลเพื่อนที่ล้ม เพื่อฝึกทักษะชีวิตและการคิดอย่างเป็นระบบ
เด็กเรียนรู้ผ่านหลักคิดและเหตุผลที่สามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ ไม่ใช่เพียงท่องจำ แต่เข้าใจ “ทำไม” และ “อย่างไร” ที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่ทำ
เด็กได้ตัดสินใจและลงมือทำภายใต้ข้อจำกัดของเวลา พลังงาน หรือสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริง เช่น การจัดเวลาในภารกิจ 1 วัน หรือปรับแผนเมื่อเกิดฝนตกระหว่างทำสวน
การเรียนรู้นอกกรอบห้องเรียน 4 เหลี่ยม เช่น ทัศนศึกษา ฟาร์มจริง ห้องทดลองจริง สนามเด็กเล่นจริง เพื่อเปิดโลกและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
การสร้างการเรียนรู้นำตนเองจะเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ปกครองเข้าใจ และร่วมเป็น "โค้ชชีวิต" ที่รับฟัง เคารพ และสนับสนุนการเติบโตของลูกอย่างแท้จริง
7R คือหัวใจของแนวทางการเรียนรู้ที่ปลุกศักยภาพภายในให้เด็กๆ ค้นพบตนเองอย่างแท้จริง เรียนรู้จากโลกจริง เพื่อเติบโตเป็นมนุษย์ที่มั่นใจ เข้าใจ และพร้อมเผชิญโลกในอนาคต
วัย 3–4 ปี เป็นช่วงที่เด็กเริ่มพัฒนาทักษะสมอง EF และสังคมอย่างก้าวกระโดด พร้อมเข้าสู่การเรียนรู้แบบมีโครงสร้างมากขึ้น เด็กจะเริ่ม "ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ" ได้เอง กล้าลองผิดลองถูก และเข้าใจรูปแบบของภาษา คำศัพท์ จำนวน และกิจกรรมกลุ่มมากขึ้น
ที่ Kitamura House เราออกแบบประสบการณ์ในห้องเรียนเพื่อฝึก EF ผ่านวงจรการเรียนรู้แบบมีจุดเริ่มต้น–กระบวนการ–การสะท้อนผล เด็กจะได้ฝึกฟัง–คิด–ตอบ เริ่มเขียนอักษรและเลขอย่างเบา ๆ และเรียนรู้คำศัพท์ทั้ง 3 ภาษาในชีวิตจริง
ช่วงเวลา | กิจกรรมหลัก | จุดเน้นการพัฒนา |
---|---|---|
07:00–08:30 | ต้อนรับ + อาหารเช้า | ความมั่นคงทางอารมณ์ + Self-Care |
08:30–09:00 | ออกกำลังกาย | Gross Motor + Energy Boost |
09:00–09:30 | ภาษาญี่ปุ่น เพลง นิทาน | Japanese + Routine |
09:30–10:00 | คำศัพท์ภาษาไทย + ตัวเลข | Language + Math + Life Skill |
10:00–10:30 | ศิลปะ / ทักษะการคิด | Creativity + EF |
10:30–11:30 | โครงงานรอบตัว | Science + Connection |
11:30–12:00 | อาหารกลางวัน | Nutrition + Self-Regulation |
12:00–14:00 | พักผ่อน | Emotional Recovery |
14:00–14:30 | ดนตรี + แสต็ค | Fine Motor + Rhythm + Confidence |
14:30–15:00 | ดื่มนม | Nutrition + Social |
15:00–16:00 | นิทาน เต้น โรบอต เทควันโด | Creativity + Movement |
16:00–16:30 | ภาษาอังกฤษ | CEFR Listening & Speaking |
16:30–17:00 | เตรียมกลับบ้าน | Winding Down + Hygiene |
สนใจให้ลูกทดลองเรียนหรือเยี่ยมชมโรงเรียน?
วัย 2–3 ปีเป็นช่วงที่เด็กเริ่มเปลี่ยนผ่านจากการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสสู่การใช้ความคิดแบบมีจุดมุ่งหมาย ที่ Kitamura House เราจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ “ลอง เลือก ทำซ้ำ” อย่างมีระบบ เพื่อวางรากฐาน EF ให้มั่นคง พร้อมเรียนรู้พื้นฐานวิชาการแบบไม่กดดัน ผ่านการเล่นอย่างมีเป้าหมายและบรรยากาศที่อบอุ่น พร้อมเริ่มต้นเรียนรู้อักษร ตัวเลข และจำนวนเบื้องต้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แนวทางนี้สอดคล้องกับทฤษฎีพัฒนาการของนักวิจัยระดับโลก:
ช่วงเวลา | กิจกรรมหลัก | จุดเน้นการพัฒนา |
---|---|---|
07:00–08:30 | ต้อนรับ + อาหารเช้า | Self-Care + อารมณ์ |
08:30–09:00 | ออกกำลังกาย | Gross Motor |
09:00–09:30 | ภาษาญี่ปุ่น เพลง นิทาน | Daily Routine |
09:30–10:00 | คำศัพท์ภาษาไทย ตัวเลข | Language + Cognitive |
10:00–10:30 | ศิลปะ / ทักษะคิด | EF + Creativity |
10:30–11:30 | บูรณาการตัวเราและสิ่งรอบตัว | Science Project |
11:30–12:00 | อาหารกลางวัน | Nutrition |
12:00–14:00 | พักผ่อน | Emotional Recovery |
14:00–14:30 | ดนตรี สแต็ค ฯลฯ | EF + Self-Expression |
14:30–15:00 | ดื่มนม | Language + Routine |
15:00–16:00 | นิทาน เต้น โรบอต ฯลฯ | EF + Motor Skill |
16:00–16:30 | ภาษาอังกฤษ | CEFR Listening & Speaking |
16:30–17:00 | เตรียมกลับบ้าน | Winding Down |
A: ได้ฟังทุกวันจากกิจกรรม ทำให้ซึมซับธรรมชาติ
A: ใช้ Soft Separation ฝึกทีละขั้น
A: ผ่านเกม เพลง ศิลปะ อย่างไม่กดดัน
A: ได้ค่ะ จะช่วยฝึกและดูแลใกล้ชิด
A: ได้ค่ะ เราออกแบบกิจกรรมให้เบาและลึกเหมาะกับวัย
สนใจให้ลูกทดลองเรียนหรือเยี่ยมชมโรงเรียน?
🌼 จุดมุ่งหมายของระดับ Kinderstage 3
วัย 4–5 ปี เป็นช่วงที่เด็กเริ่มแสดงศักยภาพของการเรียนรู้เชิงระบบได้อย่างเด่นชัด ทั้งในด้านภาษา ตัวเลข การคิดเป็นลำดับ และความสามารถในการกำกับตนเอง เด็กในวัยนี้เริ่มเชื่อมโยงประสบการณ์กับการวางแผน เป้าหมาย และความพยายามในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จด้วยตนเอง
ที่ Kitamura House เราออกแบบกระบวนการเรียนรู้แบบ “คิด → ลงมือทำ → ทบทวน” เพื่อฝึก Executive Function (EF) ผ่านกิจวัตร โครงงาน และการสะท้อนตนเองอย่างเหมาะสมกับวัย โดยประยุกต์แนวทาง Yokomine Method ซึ่งเน้นการฝึกซ้ำด้วยตนเอง การเลือกกิจกรรม และความภาคภูมิใจในความพยายามของตนเอง
แนวทางนี้สอดคล้องกับงานวิจัยระดับโลก:
ช่วงเวลา | กิจกรรมหลัก | จุดเน้นการพัฒนา |
---|---|---|
07:00–08:30 | ต้อนรับ + อาหารเช้า | ความมั่นคงทางอารมณ์ + Self-Care |
08:30–09:00 | ออกกำลังกาย + ทบทวนเป้าหมายรายวัน | EF + Physical + Self-Awareness |
09:00–09:30 | ภาษาญี่ปุ่น / วงกลมคำศัพท์ | Language Routine + Social Group Skill |
09:30–10:30 | วิชาหลัก (ภาษาไทย / คณิต / วิทย์) | Literacy + Numeracy + Logical Thinking |
10:30–11:30 | บูรณาการ: ตัวเรา สิ่งของ บุคคล สถานที่รอบตัว | การเชื่อมโยงชีวิตจริง + Critical Thinking |
11:30–12:00 | อาหารกลางวัน | Nutrition + Social Responsibility |
12:00–14:00 | พักผ่อน / Nap Time | Recovery + Emotional Regulation |
14:00–14:30 | กิจกรรมเสริม (กลอง/เปียโน/ศิลปะ/แสต็ค) | Fine Motor + Creativity + Rhythm |
14:30–15:00 | วงกลมสะท้อนกิจกรรม / ทบทวน EF | Reflection + Communication |
15:00–15:30 | ดื่มนม | Nutrition + Calm Down |
15:30–16:00 | ภาษาอังกฤษ | CEFR-based Speaking & Listening |
16:00–16:30 | อาหารเย็น | Self-Help + Social Eating Habit |
16:30–17:00 | เตรียมตัวกลับบ้าน | Winding Down + Hygiene Habit |
Q: ลูกยังเขียนตัวหนังสือไม่คล่อง จะเรียนต่อได้ไหม?
A: ได้ค่ะ เราฝึกผ่านกิจกรรมที่สนุกและไม่กดดัน
Q: ลูกไม่กล้าพูดหน้าห้อง จะเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ไหม?
A: ได้ค่ะ
มีกิจกรรมกลุ่มเล็กสร้างความมั่นใจอย่างค่อยเป็นค่อยไป
Q: เด็กวัย 4–5 ปีควรมีวินัยและทักษะการกำกับตนเองแค่ไหน?
A: ควรดูแลตนเองได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ล้างมือ เข้าห้องน้ำ
และเตรียมของได้
Q: ถ้าลงเรียนกิจกรรมเสริม เช่น กลอง เปียโน หรือ Coding
จะมีประโยชน์กับลูกไหม?
A: มีแน่นอนค่ะ เป็นโอกาสในการฝึก EF ค้นพบความสนใจ
และเสริมความมั่นใจ
สนใจให้ลูกทดลองเรียนหรือเยี่ยมชมโรงเรียน?
The tiniest hands, already holding big dreams.