Curriculum

TALENT DISCOVERY CAMP

🎉 Young Innovator & Talent Discovery Camp

ปิดเทอมตุลานี้…ให้ลูกลองสิ่งใหม่ ค้นพบความถนัด และสนุกเต็มวัน!

  • 📅 1–27 ต.ค. 2025
  • ⏰ 8:00–17:00
  • 🍽️ รวมอาหารครบ 3 มื้อ

✨ จุดเด่นค่ายนี้

  • ✅ พัฒนาทักษะครบทั้งสมอง EF, ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม
  • ✅ Talent Discovery – กิจกรรมพิเศษทุกบ่าย เช่น Drum, Piano, Dance, Robotics, Vocal, Sports Stack, Chinese, IQ Lab, Taekwondo
  • ✅ Field Trip ศุกร์สุดมันส์ – 4 สัปดาห์ 4 สถานที่
  • • 3 ต.ค. – Science Museum & Workshop

    • 10 ต.ค. – Pajeep Farm

    • 10 ต.ค. – Pajeep Farm

    • 17 ต.ค. – Museum of Thai Air Force

    • 24 ต.ค. – Cooking Workshop (Halloween Edition)

📚 กิจกรรมประจำวัน

  • Japanese Gym Play, Music & Movement
  • English & Thai Communication
  • Abacus Math / Science / Art

💎 แพ็กเกจสุดคุ้ม

  • 🚀 Weekly Explorer (5 วัน) — 7,950.-
  • 🎨 Creative Journey (6–22 ต.ค.) — 18,880.-
  • 🤖 Ultimate Innovator (1–27 ต.ค.) — 23,930.-
TALENT DISCOVERY CAMP
TALENT DISCOVERY CAMP
TALENT DISCOVERY CAMP

📌 สนใจสอบถามรายละเอียด หรือนัดทดลองเรียน

ติดต่อ ครูอุ้ม (คุณแม่ลูกเจ็ด นักพัฒนามนุษย์) ได้ทุกช่องทางค่ะ

📞 โทร: 087-484-7887
📱 LINE: คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์
🌐 เว็บไซต์: www.kitamurahouse.com

KMIIS Parenting Journal

“ในวันที่เด็กเกิดน้อย…ลูกของคุณคือทุนมนุษย์หายากของชาติ”

แต่ถ้าเลี้ยงด้วยคุณภาพ ลูกจะเป็นกำลังสำคัญของอนาคต

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคที่ “เด็กเกิดน้อย” อย่างไม่เคยมีมาก่อน ปี 2024 มีเด็กเกิดใหม่เพียง 462,000 คน ต่ำสุดในรอบกว่า 70 ปี และเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขต่ำกว่าครึ่งล้าน ขณะที่อัตราการเกิดเฉลี่ยอยู่เพียง 1.0 ต่อผู้หญิงหนึ่งคน ต่ำกว่าระดับทดแทนประชากร (2.1) อย่างมาก หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป อีกไม่ถึง 60 ปีข้างหน้า ไทยอาจเหลือประชากรเพียง ครึ่งเดียว หรือประมาณ 33 ล้านคนเท่านั้น

ในวันที่เด็กเกิดน้อยลงทุกปี เด็กแต่ละคนจึงไม่ใช่เพียงความหวังของครอบครัว แต่คือ ทุนมนุษย์หายากของชาติ การเลี้ยงดูด้วย “คุณภาพ” จึงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป

แต่คือภารกิจสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของทั้งประเทศ

12 ปีแรก: รากฐานชีวิตที่ห้ามสูญเปล่า

งานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษาของ James Heckman เจ้าของรางวัลโนเบล ยืนยันว่า การลงทุนกับเด็กในวัยต้นให้ผลตอบแทนสูงสุด เพราะช่วยสร้างแรงงานที่มีคุณภาพ สุขภาพที่ดี และลดภาระสังคมในอนาคต ทุก 1 บาทที่ลงทุน สามารถคืนกลับมาได้หลายเท่า

นักจิตวิทยาพัฒนาการ Erik Erikson อธิบายว่า แต่ละช่วงวัยของเด็กเต็มไปด้วย “คำถามชีวิต” ที่ต้องการคำตอบ —

  • 0–1 ปี: โลกนี้ไว้ใจได้ไหม?
  • 1–3 ปี: ฉันทำเองได้ไหม?
  • 3–6 ปี: ฉันริเริ่มสิ่งใหม่ได้ไหม?
  • 6–12 ปี: ฉันเก่งพอไหม?

คำตอบที่เด็กได้รับจะกำหนดบุคลิก ความมั่นใจ ทิศทางชีวิต หากช่วงสำคัญนี้ถูกละเลย เด็กจะเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเปราะบาง

Urie Bronfenbrenner ชี้ว่า เด็กไม่ได้เติบโตเพียงลำพัง แต่ถูกหล่อหลอมจากระบบนิเวศ บ้าน–โรงเรียน–สังคม หากวงแหวนเหล่านี้ไม่สอดประสาน เด็กจะโตขึ้นอย่างไม่มั่นคง

การลงทุนใน 12 ปีแรกจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่คือ “เดิมพันของชาติ” เด็กที่ถูกโอบอุ้มอย่างถูกต้องจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในอนาคต

ห้องเรียนใหญ่ = เด็กถูกกลืนไปกับระบบ

ระบบการศึกษากระแสหลักที่มีห้องเรียนใหญ่ 30–40 คน สอนหลักสูตรเดียว วัดผลด้วยข้อสอบมาตรฐาน ครูหนึ่งคนต้องดูแลเด็กจำนวนมากจนยากที่จะเข้าถึงศักยภาพรายบุคคล เด็กที่เรียนเร็วถูกรั้งไว้ เด็กเรียนช้าก็กลายเป็นผู้ถูกทิ้ง ผลคือเด็กหลายคน เรียนไปโดยไม่เคยถูกค้นพบว่าเก่งอะไร

การศึกษาแบบ “เหมาโหล” (One-Size-Fits-All) ทำให้เราสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ไปอย่างเงียบ ๆ ระบบนี้จึงไม่เพียงล้าสมัย แต่ยังอันตรายต่ออนาคตชาติในยุคที่เด็กเกิดน้อย

การเรียนรู้แบบ “วัดตัวตัด” คือคำตอบ

สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่จำนวน แต่คือ คุณภาพ Kitamura House เชื่อว่าคำตอบคือการเรียนรู้ที่ “ออกแบบตามเด็กแต่ละคน” (Tailor-Made Learning) โดยมีหลัก 4 เสา:

  1. Personalized Learning – ครูมองเด็กเป็นรายบุคคล ออกแบบเป้าหมายตามความถนัด
  2. Small Learning Community – กลุ่มเล็กอบอุ่นดูแลใกล้ชิด
  3. Meaningful Assessment – วัดด้วย Portfolio และ Narrative Feedback ไม่ใช่แค่ข้อสอบ
  4. Parent Partnership – บ้านกับโรงเรียนทำงานร่วมกัน เด็กจึงมั่นคงทั้งจากครอบครัวและสังคม

ข้อเสนอต่อครอบครัวไทย

ลูกของเราไม่ใช่เพียงอนาคตของบ้าน แต่คือ หนึ่งในทุนมนุษย์หายากของชาติ การเลี้ยงดูอย่างมีคุณภาพจึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นภารกิจที่มีความหมายต่อสังคมไทยทั้งประเทศ

ขอเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกคนลุกขึ้นมาทำหน้าที่สำคัญที่สุดของเราเอง — นั่นคือ การสร้าง “ระบบนิเวศรอบตัวลูก” ให้มั่นคง อบอุ่น และเอื้อต่อการเติบโต

  1. ให้ความรัก ความปลอดภัย และโอกาสในการลองผิดลองถูก
  2. เป็นแบบอย่างในการเคารพกติกาและเห็นคุณค่าของผู้อื่น

เมื่อบ้าน–โรงเรียน–สังคมเชื่อมโยงกันอย่างกลมกลืน เด็กแต่ละคนก็จะเติบโตเป็นคนที่มั่นคงจากภายใน พร้อมก้าวสู่อนาคตด้วยความมั่นใจ

เด็กยุคนี้ คือ ทุนมนุษย์หายาก ของประเทศไทย ในสังคมที่กำลังแก่ตัวและเล็กลง เด็กทุกคนคือ “โอกาสครั้งเดียว” ที่ไม่อาจสูญเสีย หากเลี้ยงดูและลงทุนด้านคุณภาพอย่างจริงจัง เขาจะเติบโตเป็นแรงงานที่มีทักษะพลเมืองที่มีคุณภาพ และพลังสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจและสังคมใหม่ นี่ไม่ใช่เพียงหน้าที่ของครอบครัว แต่คือ พันธกิจของชาติ

ครูอุ้มขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัว ที่กำลังทุ่มเทเลี้ยงดูและพัฒนาลูกด้วยหัวใจ เพราะทุกก้าวเล็ก ๆ ที่คุณให้กับลูกในวันนี้ คือการสร้างรากฐานใหญ่ให้กับชาติในวันข้างหน้า

play-based learning Japanese lesson

เด็ก 2–4 ปี เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นแบบธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมที่สนุกและเคลื่อนไหวอย่างอิสระ
Let your child explore Japanese language through joyful, natural movement and play.

2ปี

กระตุ้นการฟังและเลียนเสียงผ่านคำศัพท์ที่มีภาพและท่าทางประกอบ

3 ปี

เริ่มฝึกการตอบโต้สั้น ๆ ในภาษาญี่ปุ่น เช่น ‘Choudai’, ‘Arigatou’ ผ่านเกมง่าย ๆ

4 ปี

สามารถจับคู่อักษรภาพกับเสียงได้ เริ่มอ่านคำศัพท์พื้นฐาน

The girl holding the winning trophyl

🌟 ทุกถ้วยรางวัลและภาพความสำเร็จที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ ไม่ได้เกิดจากการเร่งให้เด็กต้องเก่งเร็ว
แต่มาจาก “พื้นที่ที่เด็กได้ลอง” อย่างอิสระ
และนี่คือบางส่วนของสิ่งที่เบ่งบานขึ้น… เมื่อเขาได้เจอทางของตัวเอง

🏆Meet Our Award-Winning Stars 2024-2025

congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations
congratulations

❓ ลูกของคุณเคยถูกมองว่า “ยังไม่เก่งอะไรเลย” ไหมคะ?
❓ หรือเคยรู้สึกไหมว่า... ระบบการเรียนรู้แบบเดิมรีบตัดสินเด็กเร็วเกินไป?

ที่ Kitamura House เราไม่เร่งให้เด็กต้องเก่งเร็ว
แต่เราสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย ให้เด็ก ๆ ได้ “ลองผิด ลองถูก” อย่างอิสระ
ผ่าน วิชาเสริม Enrichment Free Elective Subjects
ซึ่งเปิดให้เด็กได้เรียนฟรีทุกสัปดาห์ มากกว่า 10 วิชา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

🔎 เพราะการได้ลอง คือจุดเริ่มต้นของการค้นพบตัวเอง

นี่คือเรื่องจริงของเด็ก ๆ บ้าน Kitamura ที่พัฒนาเส้นทางชีวิตจากการ “ได้ลอง”

🎤 AkiE | จากเด็กขี้อาย สู่เวทีนักร้องเด็ก

AkiE เคยกลัวไมโครโฟน...
แต่แค่ได้ลองคลาส Vocal และ Dance เธอเริ่มค้นพบพลังของเสียงตัวเอง
วันนี้เธอขึ้นเวทีระดับประเทศ และฝันอยากเป็นนักร้องที่ใช้เสียงส่งพลังบวกให้โลก

🤖 Taichi | จากเด็กจอมซน สู่สายเทคโนโลยี

Taichi ชอบรื้อของเล่น แต่ไม่รู้ว่าคือพรสวรรค์ จนได้เรียน Robotics
วันนี้เขาเขียนโค้ดเอง ประกอบหุ่นยนต์จริง และกำลังเตรียมลงแข่งขันระดับนานาชาติ

🍳 Kazuhiro | จากเด็กชอบเข้าครัว สู่เส้นทางนักคิด

Kazuhiro เริ่มจากการเข้าคลาส Cooking แต่กลับตั้งคำถามทุกขั้นตอน
“ทำไมเค้กถึงฟู?”
วันนี้เขาหลงใหลวิทยาศาสตร์เบื้องหลังอาหาร และฝันอยากเป็นนักวิจัย

👩‍⚕️ KaE | จากเด็กที่รักการอ่าน สู่ว่าที่คุณหมอ

KaE ไม่ได้เด่นด้านกิจกรรม แต่เธอเปล่งประกายในคลาส Math Mind Mapping
วันนี้เธอกำลังเตรียมตัวเข้าหลักสูตรแพทยศาสตร์ควบการบริหาร
เพื่อเปิดคลินิกเด็กที่ดูแลด้วยหัวใจ

🎨 เราให้เด็ก “ได้ลอง” อะไรบ้าง?

วิชาเสริมที่เปิดสอนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย พัฒนาทักษะอะไร?
🥁 Drum Set สมาธิ กล้ามเนื้อ ความมั่นใจ
🎹 Piano การฟัง ความจำ ศิลปะเสียง
🎤 Vocal การพูด กล้าแสดงออก การใช้เสียง
💃 Dance กล้ามเนื้อ ความกล้า การเข้าสังคม
🤖 Robotics & Coding คิดเชิงตรรกะ แก้ปัญหา
🧠 Math Mind Mapping ความคิดเป็นระบบ EF
🧩 Stack & IQ Lab สมองไว มือแม่น สมาธิ
🥋 Taekwondo วินัย การควบคุมตนเอง
🍳 Cooking Class ทักษะชีวิต + วิทยาศาสตร์เบื้องต้น

เด็กแต่ละคนจะได้ลองเรียน อย่างน้อย 3–5 วิชาต่อสัปดาห์
โดยเราจะสังเกต วิเคราะห์ และส่งรายงานให้ผู้ปกครองทุกเดือน
เพื่อร่วมกันค้นหา “แนวทางเฉพาะของลูกคุณ”

🧭 ทำไมต้องเริ่มตอนนี้?

เพราะการค้นพบความถนัดของลูก ต้องใช้เวลา
และเวลาที่ดีที่สุดคือ… ตอนนี้
เด็กที่ค้นพบเร็ว จะมีแรงจูงใจในการเรียน มีความมั่นใจ และเลือกเส้นทางชีวิตได้แม่นยำ

✅ ทดลองได้จริง ไม่ต้องจินตนาการ

  • 📌 มาเยี่ยมชมโรงเรียน และพูดคุยกับครูประจำวิชา
  • 🧒 ทดลองเรียนจริง 1 วัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • 🧠 รับคำแนะนำแนวโน้มความถนัดของลูกเบื้องต้น
  • 📸 รับภาพถ่ายและรายงานหลังการทดลองเรียน

✨ “ให้ลูกได้ลองทุกสิ่งที่เขาอาจรัก... เพราะการค้นพบตัวเองคือของขวัญที่ดีที่สุด”

kitamura

A Whole-Child Journey from Nursery to Life Design Readiness
เส้นทางการเรียนรู้แบบองค์รวม คิตะ 1–12 สู่การออกแบบชีวิต

📘 Curriculum Philosophy

หลักสูตรรายบุคคลที่ออกแบบเพื่อเด็กทั้งคน ชีวิตทั้งชีวิต และอนาคตทั้งเส้นทาง
Kita 1–12 Life Design Curriculum พัฒนาเด็กผ่าน 3 แกนหลัก: วิชาชีวิต – วิชาการ – วิชาชีพ
โดยบูรณาการกับ 7 ด้านพัฒนาการสำคัญตามแนวทางสากล
เราสร้างรากฐานด้วย EF (Executive Function) วินัยแบบญี่ปุ่น และการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมั่นคง เข้าใจตนเอง และพร้อมออกแบบชีวิตในแบบของเขาเอง

A tailor-made learning journey that builds every child across 7 essential development domains – grounded in Executive Function, Japanese discipline, and experiential learning – through the three learning pillars: Life Skills, Academics, and Future Readiness.

🎯 Curriculum Vision – วิสัยทัศน์หลักสูตร

เพราะชีวิตของลูกเริ่มต้นนับจากก้าวแรกที่ลืมตา เราจึงออกแบบเส้นทางที่ไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อเตรียมสอบ แต่คือการเติบโตเพื่อรู้จักตนเอง เข้าใจโลก และกล้าสร้างทางเดินชีวิตของตัวเองอย่างมีเป้าหมาย

Kita 1–12 Life Design Curriculum คือหลักสูตรที่ค่อย ๆ ปลูกฝังรากชีวิตของเด็ก ตั้งแต่วัยเตาะแตะจนถึงวัยก่อนมัธยม ผ่านการดูแลแบบรายบุคคล การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง EF ที่ฝังอยู่ในทุกวัน และวินัยแบบญี่ปุ่นที่ไม่กดดันแต่มั่นคง

kitamura

📚 สาระหลัก 3 แกน (3 Core Learning Pillars)

  • วิชาชีวิต (Life Skills)
    • ทักษะ EF: การวางแผน สมาธิ ความยืดหยุ่น การควบคุมตนเอง
    • ความฉลาดทางอารมณ์ / การรู้จักตนเอง
    • วินัยแบบญี่ปุ่น: 5ส กิจวัตร การเคารพและความรับผิดชอบ
  • 📘 วิชาการ (Academic Mastery)
    • ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น
    • คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม เทคโนโลยี
    • ทักษะการคิด การวิเคราะห์ การอ่าน เขียนตามมาตรฐานสากล (CEFR, JLPT)
  • 💪 วิชาชีพ (Career & Life Design)
    • การเขียนโค้ด หุ่นยนต์ งานครัว การวางแผนชีวิต
    • ความรู้การเงิน โครงงานประดิษฐ์ ทักษะผู้ประกอบการ
    • การค้นหา Passion และออกแบบเส้นทางชีวิต

🌈 7 ด้านพัฒนาการ (7 Development Domains)

  1. 🧠 Executive Function (EF) – รากฐานของสมาธิ การยับยั้งพฤติกรรม การคิดเป็นลำดับ การประเมินตนเอง
  2. 🧼 Self-Care & Responsibility – การดูแลตนเอง กิจวัตรประจำวัน ความเป็นระเบียบและความรับผิดชอบ
  3. 🤝 Social & Emotional Development – การสื่อสาร การเห็นใจผู้อื่น การแก้ปัญหา การอยู่ร่วมในสังคม
  4. 🧩 Cognitive & Thinking Skills – การคิดวิเคราะห์ ตรรกะ การสังเกต การตั้งคำถาม
  5. 🌐 Language & Communication – การสื่อสาร 3 ภาษา: ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน
  6. 🎨 Creativity & Aesthetics – ศิลปะ ดนตรี นิทาน การออกแบบ และการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์
  7. Physical Development – กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก กีฬา การเคลื่อนไหว และการดูแลสุขภาพ

🧭 Learning Stages & Focus – แบ่งพัฒนาการตามช่วงวัย

ระดับ อายุ โฟกัสสำคัญ
Nursery 1–2 ปี เริ่มต้นชีวิตในโลกใบใหม่อย่างมั่นคง ผ่านกิจวัตรที่อ่อนโยน เสริม EF ด้านการรอคอย การฟัง และการทำตามขั้นตอนอย่างเรียบง่าย พร้อมกระตุ้นประสาทสัมผัสและพัฒนาการทางอารมณ์อย่างต่อเนื่อง
Kinderstage 3–5 ปี เล่นเพื่อรู้จักตัวเอง ฝึก EF ผ่านการเล่นอย่างมีเป้าหมาย เริ่มเรียนรู้พื้นฐานวิชาการแบบเป็นธรรมชาติในภาษา คณิต วิทย์ พร้อมพัฒนาอารมณ์ การอยู่ร่วม และความคิดสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวัน
Early Primary 6–8 ปี ต่อยอดการเรียนรู้ด้วยโครงสร้างและความเข้าใจ สร้างระบบวิชาอย่างเป็นขั้นตอน เสริม EF ผ่าน Life Board, ฝึกคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และแสดงออกอย่างมั่นใจ พร้อมบูรณาการวิชาชีพเบื้องต้น
Primary 9–12 ปี เติบโตด้วยตนเองในแบบที่มีเป้าหมาย เด็กวางแผนชีวิตผ่าน Passion Project, ฝึก Self-Directed Learning อย่างเข้มข้น พร้อมเสริมภาวะผู้นำ การจัดการเวลา และความรับผิดชอบต่อเป้าหมายในชีวิตจริง

🔑 Key Features – จุดเด่นของหลักสูตร

  • หลักสูตรรายบุคคล Tailor-made ตามจังหวะชีวิตของเด็กแต่ละคน
  • สอน 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) ด้วยสถานการณ์จริง
  • ฝัง EF ในทุกกิจกรรม ทั้งวิชาและชีวิตประจำวัน
  • เรียนรู้แบบโครงงาน / Field Trip / Life Lab ทุกเทอม
  • มีระบบ Portfolio เชิงพัฒนาการ 7 ด้าน
  • เรียน 12 เดือนต่อปี เสริมพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

📌 Conclusion – สรุปบทท้าย

Kita 1–12 Life Design Curriculum ไม่ใช่แค่หลักสูตร แต่คือคำสัญญาที่เรามีต่อครอบครัวทุกครอบครัว ว่าเราจะอยู่เคียงข้างการเติบโตของลูกคุณทุกวันอย่างมีความหมาย เพื่อให้เขากลายเป็นคนที่มีวินัย คิดเป็น ใช้ชีวิตเป็น และมีเป้าหมายของตนเองในโลกใบนี้

kitamura

🏡 สิ่งที่ Kitamura House ให้ความสำคัญ

เมื่อเด็กทำพลาด หรือมีปัญหากับเพื่อน ๆ
เราเลือกที่จะไม่ดุ แต่จะพยายามชวนเขา “ทบทวนว่าจริง ๆ แล้วต้องการอะไร”
เพราะเรามองว่า ความผิดพลาดและการสะดุดล้มของเด็กคือ “โอกาสในการเติบโต”
ที่ Kitamura House เราเน้นพัฒนาทักษะ EF (Executive Function หรือการทำงานเชิงบริหารในสมอง)
ไม่ใช่การตำหนิ แต่เป็นการสนทนาอย่างลึกซึ้ง ชวนคิดต่อ และช่วยให้เด็กก้าวผ่านสถานการณ์ไปได้อย่างมั่นคง

✨ How to: 4 คำพูดพิเศษจากคุณครูใหญ่ ช่วยให้เด็กกล้าเติบโต – แบบญี่ปุ่นที่ช่วยพัฒนา EF

🌱 1. เริ่มจาก “เข้าใจความรู้สึก” ของเด็กก่อน

เวลาที่เด็กทำพลาด เราอาจเผลอพูดว่า “ทำไมถึงทำแบบนี้!”
แต่สิ่งที่สำคัญคือผู้ใหญ่ควรตั้งสติ และรับฟังอย่างอ่อนโยน เช่น
“หนูอยากทำอะไรเหรอ?”
“จริง ๆ แล้วอยากจะทำอะไร?”
คำถามเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้เข้าใจตัวเอง เช่น เด็กที่แย่งของเล่น อาจแค่ยังไม่รู้วิธีชวนเพื่อนเล่น

🌱 2. บอกเด็กว่า “หนูทำได้นะ” ก่อนเข้าสู่การแก้ปัญหา

ก่อนจะชวนเด็กคิด ลองพูดว่า
“หนูอยากจะทำอย่างนั้นใช่ไหม? ได้นะ”
จากนั้นถามต่อว่า
“งั้นหนูคิดว่า ควรทำยังไงดีนะ ถึงจะทำแบบนั้นได้?”
คำพูดนี้ช่วยให้เด็กเปิดใจ และเรียนรู้การคิดอย่างสงบ

🌱 3. ตั้งคำถามชวนทบทวนพฤติกรรม

เมื่อเด็กใจเย็นแล้ว ชวนให้คิดทางเลือกอื่น ๆ เช่น
“ถ้าอยากทำแบบนั้น หนูคิดว่าจะทำอย่างไรดี?”
ไม่เน้นคำตอบถูกผิด แต่เน้นฝึกการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

🌱 4. เมื่อลูกสามารถพูดว่า “ขอโทษ” ได้

หลังเหตุการณ์สงบ ชวนเด็กทบทวนว่า
- สิ่งที่ทำดีหรือไม่ดี
- มีผลกระทบกับใครบ้าง
- ควรรับผิดชอบอย่างไร

หากเด็กพูด “ขอโทษ” ได้ คือเขากำลังเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ
ควรชมทันที เช่น:
“หนูสังเกตตัวเองได้ เก่งมากเลยนะ”
“การขอโทษต้องใช้ความกล้ามาก หนูทำได้แล้ว เยี่ยมเลยนะ”
“หนูกล้าที่จะเผชิญกับความรู้สึกของตัวเอง เก่งมากเลยลูก”

☁️ พ่อแม่ก็เรียนรู้ไปพร้อมกับลูกได้

การเลี้ยงลูกไม่มีสูตรสำเร็จ บางวันเราอาจเผลอใช้อารมณ์ แล้วก็รู้สึกเสียใจ
แต่ทุกครั้งที่เรากลับมานั่งคุยว่า
“คราวหน้าจะทำยังไงให้ดีกว่านี้”
เราเองก็ได้เติบโตไปพร้อมกับลูก

🌈 4 ขั้นตอนง่าย ๆ เริ่มได้วันนี้

  1. “จริง ๆ แล้วอยากจะทำอะไร?”
  2. “หนูทำได้นะ”
  3. “ถ้าอยากทำแบบนั้น หนูคิดว่าจะทำอย่างไรดี?”
  4. ถ้าลูกพูด “ขอโทษ” แล้ว ให้คำชมที่อบอุ่น

เพียงเท่านี้ ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงในใจเด็กได้มากมาย

✨ ทิ้งท้าย

❤️ “ความผิดพลาด” ไม่ใช่ “ความล้มเหลว” แต่มันคือ “โอกาสในการเรียนรู้”
❤️ หากเรามีความเชื่อว่า “เด็กสามารถเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงได้”
เราก็จะสามารถยืนเคียงข้างพวกเขาได้ ด้วยใจที่เปิดกว้างและอ่อนโยน
เริ่มวันนี้เลยนะคะ

📲 สนใจเข้าชมโรงเรียน หรือลองเรียนฟรี

👉 087 484 7887
🌐 www.kitamurahouse.com

kitamura

🏡 Kitamura House が大切にしていること

子どもが失敗したり、友だちとトラブルを起こしたとき、
私たちは叱るのではなく、「本当は何をしたかったのか」を一緒に考えるようにしています。
なぜなら、失敗やつまずきは子どもにとって “成長のチャンス” だからです。
Kitamura House では、EF(Executive Function=実行機能)の発達を大切にしています。
叱るのではなく、深く話し合い、気づきへ導き、子どもが自信を持って前に進めるよう支援します。

✨ How to: 園長先生の子どもが育つ4ステップの声かけ方


1️⃣ まずは「気持ちを理解すること」から

子どもが失敗したとき、私たち大人はつい「どうしてそんなことしたの!?」と言ってしまいがちです。
でも、大切なのは大人がまず落ち着いて、やさしく耳を傾けることです。

  • 「何をしたかったのかな?」
  • 「本当はどうしたかったの?」

こうした問いかけは、子どもが自分の気持ちに気づき、自己理解を深める手助けになります。
たとえば、友だちのおもちゃを取ってしまった子も、実は「おもちゃで遊びたかった」だけで、どう誘えばいいのかわからなかっただけなのかもしれません。

2️⃣ 解決を始める前に「いいよ」と伝える

🙆これはとても大切なステップです🙆
子どもがやりたいことを話し始めたとき、まずこう声をかけましょう:

「それをやってみたかったんだね、いいよ。」

こうした言葉は、子どもの心を開き、安心して聞く耳を持てるようになります。
「自分の気持ちが否定されていない」と感じられるからです。
そのあとで、次のように問いかけします:
「じゃ、それをするためには、どうしたらいいと思う?」
これは信頼関係を築き、子どもが落ち着いて考えられる土台をつくります。

3️⃣ 行動をふり返る質問をしよう

子どもの心が落ち着いたら、一緒に他の方法について考えてみましょう。

「もしそれをしたいんなら、どうしたらいいと思う?」

正解を与えることが目的ではありません。
子ども自身に考える機会を与えることで、実体験から学べるのです。
これは「分析力」「問題解決力」といったEFスキルのトレーニングになります。
たとえば、「友だちのおもちゃで遊びたい」ときは「そのおもちゃで遊びたいんだね、いいよ。じゃ、どうしたらいいと思う?いっしょに遊ぼうって言ってみようか?」という声かけもできます。

4️⃣ 子どもが「ごめんね」と言えたとき

トラブルが落ち着き、子どもが気持ちを整理できたら、もう一度ふり返ってみましょう:

  • 😔 その行動はよかった?よくなかった?
  • 😔 まわりの人にどんな影響があったかな?
  • 😔 どうすれば責任をとることができるかな?

子どもが素直に「ごめんなさい」と言えた時は、
自分の誤った行動を認識し、責任をとる覚悟ができたという証です。
その時は、その覚悟を認めてあげて、自信につなげてあげましょう。

  • 「素直に謝ることができたね。よくできました!」
  • 「ごめんねって言えたのは自分の行動に責任を持てたことだよ。よくできました。」
  • 「失敗と向き合えたね。よくできました。」

大人のこうした言葉は、子どもの

  • ❤️ 自己肯定感(Self-esteem)
  • ❤️ 自己制御力(Self-regulation)

を育み、社会の中で他人と共に生きていくための大切な力を育みます。

☁️ 親も子どもと一緒に学んでいこう

子育てに完璧な正解はありません。
時には感情的になってしまうこともあるでしょう。
でも、あとで子どもと話しながら、
「次はどうすればいいかな?」
とふり返ることができれば、親も一緒に成長していけますね。

Kitamura House では、日々のコミュニケーション、傾聴、そして許しを通して、
子どもと共に学び合う日々を大切にしています。

🌈 今日からできる4ステップ

  1. ✅ Step1. 「何をしたかったのかな?」
  2. ✅ Step2. 「君ならできるよ」
  3. ✅ Step3. 「じゃあどうすればよかったかな?」
  4. ✅ Step4. 「ごめんね」が言えたら、あたたかくほめよう

これだけで、子どもの心に大きな変化が生まれます。

✨ 最後に

「失敗」は「ダメなこと」じゃない。それは 「学びのチャンス」です。

私たちが「子どもは変われる・学べる存在だ」と信じるなら、子どもに寄り添い、あたたかい心で成長を支えることができます。

さあ、今日から始めてみませんか?💛


📲 園見学・無料体験をご希望の方はこちらまで
👉 087 484 7887

kitamura

🧠 แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต (Non-Cognitive Skills) ที่คิตามูระเฮ้าส์


🌟 คืออะไร?

ทักษะชีวิตที่ไม่ใช่ความรู้ในตำรา แต่คือ "ทักษะชีวิตแท้จริง" ที่ช่วยให้เด็กๆ เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ และรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


🔑 ทักษะเหล่านี้มีอะไรบ้าง?

  • ความมั่นใจในตนเอง
  • ความพยายาม / ไม่ยอมแพ้
  • การควบคุมอารมณ์
  • การสื่อสารและเข้าใจผู้อื่น
  • การทำงานเป็นทีม
  • ความคิดสร้างสรรค์
  • ความกล้าแสดงออก / กล้าลองสิ่งใหม่

🏡 ตัวอย่างกิจกรรมที่ฝึก Non-Cognitive Skills ที่คิตามูระเฮ้าส์

✅ ผ่านกิจวัตรประจำวัน

  • เวลารวมกลุ่มเช้าให้เด็กเล่าเรื่องของตัวเอง → ฝึกการสื่อสารและความมั่นใจ
  • เด็กจัดของเล่นเองทุกวัน → ฝึกความรับผิดชอบและวินัย
  • เด็กโตช่วยดูแลน้องเล็ก → ฝึกความเป็นผู้นำและความเห็นอกเห็นใจ

✅ ผ่านกิจกรรมปฏิบัติ

  • ทำสวน ปลูกผัก → รู้จักรอคอย ทำงานเป็นทีม
  • ฝึกแสดงละคร / ร้องเพลง → ฝึกกล้าแสดงออก กล้าเผชิญความตื่นเต้น
  • ทัศนศึกษา → ฝึกความกล้าในการปรับตัวและเรียนรู้จากโลกจริง

✅ ผ่านสถานการณ์จริง

  • เวลาทะเลาะกับเพื่อน ฝึกพูดคุยปรับความเข้าใจ → เรียนรู้การแก้ปัญหา
  • เวลาร้องไห้เพราะล้ม แต่ลุกขึ้นเองได้ → พัฒนาความยืดหยุ่นทางอารมณ์

💬 เสียงจากผู้ปกครอง

“ลูกเคยไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้พูดต่อหน้าคนอื่นอย่างมั่นใจ”

“ลูกยอมรอคิว ยอมฟังเพื่อนมากขึ้น และมีน้ำใจมากขึ้นชัดเจน”


📌 ทำไมทักษะชีวิตเหล่านี้สำคัญ?

งานวิจัยจาก OECD และกระทรวงศึกษาธิการหลายประเทศยืนยันว่า ทักษะที่ไม่ใช่วิชาการ มีผลกับความสำเร็จในชีวิตมากกว่าความรู้ล้วนๆ

และช่วงวัยอนุบาล – ประถมต้น คือช่วง "ทอง" ที่สมองพัฒนาเร็วที่สุด จึงควรปลูกฝังตั้งแต่วันนี้

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการพื้นที่ให้ลูกได้ “เติบโตเต็มศักยภาพทั้งภายในและภายนอก”
คิตามูระเฮ้าส์ พร้อมเป็นครอบครัวที่เดินเคียงข้างการเรียนรู้ของลูกค่ะ 🌷


📍 ข้อมูลโรงเรียน

  • ชื่อโรงเรียน: Kitamura House International Preschool
  • ที่อยู่: 98/36 หมู่บ้านมายด์ฮอฟฟ์ ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
  • โทร: 087-484-7887 (TH/EN/JP)
  • เว็บไซต์: www.kitamurahouse.com
kitamurahouse

🌟 7R ความจริงทั้ง 7 ที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้แบบนำตนเอง (Self-Directed Learning)

ปลุกพลังการเรียนรู้จากภายใน ผ่านประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับโลกจริง


1. 🧑‍🏫 Real Expert – เรียนจากผู้รู้จริง

เด็กๆ ได้เรียนรู้จากครู ผู้เชี่ยวชาญ วิทยากร หรือบุคคลต้นแบบในชีวิตจริง เช่น แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักแสดง หรือนักดนตรี ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจจากแหล่งความรู้ที่แท้จริง


2. 🧸 Real Thing – วัตถุจริงจับต้องได้

ไม่ใช่แค่ภาพในหนังสือ แต่เด็กได้สัมผัสกับของจริง เช่น พืชผัก อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เครื่องดนตรี หรือสิ่งของในชีวิตประจำวัน เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและการคิดเชิงสร้างสรรค์


3. 🎭 Real Situation – สถานการณ์จริง

เด็กได้เผชิญและแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น การซื้อตั๋วรถไฟ การจัดการเงินค่าขนม หรือการดูแลเพื่อนที่ล้ม เพื่อฝึกทักษะชีวิตและการคิดอย่างเป็นระบบ


4. 📚 Real Theory – หลักการจริง

เด็กเรียนรู้ผ่านหลักคิดและเหตุผลที่สามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ ไม่ใช่เพียงท่องจำ แต่เข้าใจ “ทำไม” และ “อย่างไร” ที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่ทำ


5. ⏳ Real Condition – เงื่อนไขจริง ณ เวลาปัจจุบัน

เด็กได้ตัดสินใจและลงมือทำภายใต้ข้อจำกัดของเวลา พลังงาน หรือสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริง เช่น การจัดเวลาในภารกิจ 1 วัน หรือปรับแผนเมื่อเกิดฝนตกระหว่างทำสวน


6. 🏕️ Real Place – สถานที่จริงนอกห้องเรียน

การเรียนรู้นอกกรอบห้องเรียน 4 เหลี่ยม เช่น ทัศนศึกษา ฟาร์มจริง ห้องทดลองจริง สนามเด็กเล่นจริง เพื่อเปิดโลกและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง


7. 👨‍👩‍👧‍👦 Real Parenting – การสนับสนุนจากผู้ดูแลเด็กอย่างแท้จริง

การสร้างการเรียนรู้นำตนเองจะเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ปกครองเข้าใจ และร่วมเป็น "โค้ชชีวิต" ที่รับฟัง เคารพ และสนับสนุนการเติบโตของลูกอย่างแท้จริง


✨ เพราะ "ของจริง" คือครูที่ดีที่สุด

7R คือหัวใจของแนวทางการเรียนรู้ที่ปลุกศักยภาพภายในให้เด็กๆ ค้นพบตนเองอย่างแท้จริง เรียนรู้จากโลกจริง เพื่อเติบโตเป็นมนุษย์ที่มั่นใจ เข้าใจ และพร้อมเผชิญโลกในอนาคต


📍 ข้อมูลโรงเรียน

  • ชื่อโรงเรียน: Kitamura House International Preschool
  • ที่อยู่: 98/36 Romklao Rd Soi 38/1, Khlong Sam Prawet, Lat Krabang, Bangkok 10520
  • โทร: 087-484-7887 (TH/EN/JP)
  • เว็บไซต์: www.kitamurahouse.com
เรียนเชิญผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ

"เลี้ยงลูกอย่างไรให้พึ่งพาตนเองได้ในโลกยุคดิจิตอล"

พร้อมรับฟังแนวทางการเรียนรู้รูปแบบใหม่ตามกลุ่มประสบการณ์
เพื่อค้นหาความถนัดเฉพาะบุคคลของ Pachara Education Hub

รศ. ดร. วิมลทิพย์ มุสิกพันธ์

ผู้เชี่ยวชาญการให้คำปรึกษาครอบครัว
อาจารย์ประจำหลักสูตรนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก
สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัย มหิดล

  • สาร์ 24 กันยายน 2022 10 : 30 - 12 : 30 AM
  • ณ ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์ ร่มเกล้า
  • Register : Line ID panatdakitamura
  • More info : 087-484-7887

📍 ข้อมูลโรงเรียน

  • ชื่อโรงเรียน: Kitamura House International Preschool
  • ที่อยู่: 98/36 หมู่บ้านมายด์ฮอฟฟ์ ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
  • โทร: 087-484-7887 (TH/EN/JP)
  • เว็บไซต์: www.kitamurahouse.com
  • 1. เสริมสร้างพัฒนาการทางจิตใจ และทักษะความฉลาดด้านอารมณ์ EQ เพื่อให้ลูกมีทักษะในการเข้าใจตนเอง กำกับตนเอง สร้างแรงบันดาลใจตนเอง เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีทักษะสังคมและจิตสาธารณะ
  • 2. เสริมสร้างพัฒนาการทางสมองด้วย เทคนิควินัยเชิงบวก(Positive Discipline) สอนและการฝึกฝนเด็กให้มีพฤติกรรมตามที่พึงประสงค์ด้วยการสื่อสารเชิงบวก และฝึกให้เด็กใช้ทักษะสมองส่วนหน้าเชิง Executive function หรือ EF ให้เด็ก คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่กับผู้อื่นอย่างมีความสุข มีการรักษาสัมพันธภาพระหว่างเด็กและผู้ดูแลโดยการแสดงความรักความเอาใจใส่
  • 3. ฝึกกระบวนการสร้างแรงจูงใจให้ตนเอง (Self-motivation) ด้วยการโค้ชให้เด็กสามารถที่จะระบุเป้าหมายของตนเองอย่างเจาะจง สร้างแรงจูงใจภายในที่จะนำไปสู่เป้าหมาย ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
  • 4. เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจด้วยทักษะการพูด การทักทาย การกล่าวสวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ การแบ่งปัน การรอคอย การเดิน การขึ้นลงบันได และการนั่งตัวตรง การฝึกมารยาทสังคมตามกาลเทศะ
  • 5. ฝึกทักษะความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวมด้วย งานบ้าน งานครัวขั้นพื้นฐาน ทำอาหารคาวหวาน เก็บล้างจานหลังทานข้าว จัดระเบียบ กวาด เช็ด ถู ทิ้งขยะให้ลงถัง รักษาความสะอาดปลอดภัยส่วนตัวและส่วนรวม
  • 6. เนื้อหาแบบเรียนสอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัย กระทรวงศึกษาธิการ หลักสูตรการพัฒนาเด็กปฐมวัยอนุบาลโยโกมิเนะประเทศญี่ปุ่น หลักสูตรภาษาอังกฤษ Oxford Phonics
  • 7. เสริมสร้างสุนทรียทางอารมณ์ ด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะ นิทาน ร้องเพลง ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น เพียนิก้า เปียโน กลองอะคูสติก คีย์บอร์ด อูคูเลเล่
  • 8. เสริมสร้างสมรรถนะทางร่างกายและความสามารถในการทรงตัว การวางแผนการเคลื่อนไหว การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ด้วยหลักสูตรพลศึกษา อนุบาลโยโกมิเนะ จากประเทศญี่ปุ่น กิจกรรมกลางแจ้ง ณ ลานทรายและห้องเรียนธรรมชาติ

Curriculum

kitamurahouse
kitamurahouse
kitamura
kitamura
kitamura

📍 ข้อมูลโรงเรียน

  • ชื่อโรงเรียน: Kitamura House International Preschool
  • ที่อยู่: 98/36 หมู่บ้านมายด์ฮอฟฟ์ ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
  • โทร: 087-484-7887 (TH/EN/JP)
  • เว็บไซต์: www.kitamurahouse.com

Rooted in care, blooming through learning.

The tiniest hands, already holding big dreams.