NEWS And Activities

ข่าวและกิจกรรม
kitamurahouse

How to visit

kitamura

Contact us

  • 087 484 7887
  • www.kitamurahouse.com
  • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
Kitamura House

หลักสูตรพัฒนาการทักษะด้านภาษา

เพื่อเป็นการเปิดโลกทรรศน์ให้กว้างขึ้น มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เด็กๆจะมีความสามารถในการสื่อสารที่หลากหลาย ที่คิตามูระเฮ้าส์ การฝึกภาษาที่2,3 หรือ4 ไม่ใช่เรื่องยาก และน่าเบื่ออีกต่อไป
ลองมาสัมผัสบรรยากาศการเรียนการสอน กับครูเจ้าของภาษา ผสมผสานเทคนิคเฉพาะ
เต็มไปด้วยความสนุก และได้สาระ ได้พัฒนาทักษะทั้ง4 ฟัง พูด อ่าน เขียนอย่างครบถ้วน
Kitamura House
Kitamura House
Kitamura House

คลาสเรียนภาษาญี่ปุ่น KITAMURA HOUSE คืออะไร?

รูปแบบการสอนสนทนาภาษาญี่ปุ่นแบบ KITAMURA HOUSE คือ วิธีการสอนสนทนารูปแบบใหม่ ที่ถูกคิดค้นขึ้นจากกระบวนการการสอนที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียน Mr.Kitamura เป็นผู้สอนเด็กๆด้วยตนเอง
บทเรียนจะถูกสอนด้วยชีทเอกสารที่ได้คิดค้นผสมผสานจากคุณลักษณะเฉพาะของภาษาญี่ปุ่น และภาษาไทย โดยผ่านการ์ด, การสนทนา ในรูปแบบของเกมส์
ผู้เรียน สามารถจดจำรูปแบบประโยคพื้นฐานของภาษาญี่ปุ่น
วิธีการสอบถามหรือสื่อสารสิ่งที่ต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยผ่านเกมส์ ด้วยผลลัพธ์จากที่ผ่านมามากมายนี้ ทำให้เราคิด ว่านี่คือ1ในวิธีที่ช่วยให้เรียนรู้ การสนทนาภาษาญี่ปุ่นได้ง่ายที่สุด
ในระยะเวลาอันสั้น
เรายึดคติที่ว่าวัยเด็ก4ขวบ สามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย จนกระทังสามารถพูดได้โดยธรรมชาติ
ในขณะเดียวกัน เราก็สามารถเรียนรู้การอ่านการเขียน อักษรฮิระกะนะ คะตะคะนะได้ด้วย
  • กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ภาษาญี่ปุ่นที่มีอายุตั้งแต่4ขวบขึ้นไป
  • สื่อการสอน: ตำราสนทนาภาษาญี่ปุ่นในรูปแบบ Mr.Kitamura และNew System Japanese
Video

Contact Us

ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์

เนอสเซอรี่สไตล์ญี่ปุ่น-เรียนสนุก คิดเป็น เน้นทักษะชีวิต-ร่มเกล้า ลาดกระบัง

  • 087 484 7887
  • www.kitamurahouse.com
  • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
kitamurahouse
โฟนิคส์ (Phonics) คืออะไร?
สมัยนี้การเรียนภาษาอังกฤษที่มักได้ยินกันบ่อยในหมู่เด็กๆ ก็คือการเรียนโฟนิคส์ ที่ต่างเรียนกันอย่างแพร่หลาย จนหลายท่านอาจสงสัยว่าการเรียนโฟนิคส์นั้นคืออะไร ทำไมสมัยเราเรียนหนังสือไม่เห็นเคยได้ยินหรือเคยรู้จักมาก่อน ทำไมสมัยนี้พูดกันเยอะมาก วันนี้จะเล่าเรื่องการเรียนโฟนิคส์ให้ทราบกันคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
โฟนิคส์ คือวิธีการเรียนอ่านเขียนและออกเสียงภาษาอังกฤษโดยใช้หลักการถอดรหัสเสียงและการผสมเสียงตัวอักษร a ถึง z ทั้ง 26 ตัว ผู้เรียนจะต้องเข้าใจเสียงของตัวอักษรต่างๆ และออกเสียงเหล่านั้นให้ได้อย่างถูกต้องจึงจะสามารถผสมเสียงออกมาเป็นคำได้ ยกตัวอย่างเช่น การสะกดคำว่า cat ในสมัยเราๆ จะท่องกันว่า ซี-เอ-ที แคท แมว ซึ่งยากที่จะเข้าใจว่าทำไม ซี-เอ-ที ถึงกลายเป็นแคทไปได้ เพราะการท่องแบบนี้ไม่ได้ใช้หลักการผสมเสียงแต่เป็นการท่องจำการสะกดคำเสียมากกว่า
จากตัวอย่างนี้ ถ้าเรียนตามหลักโฟนิคส์ จะสอนให้รู้จักตัว “c” จากเสียงของมันคือเสียง “ค” (ออกเสียงเคอะ เบาๆ ในลำคอ) ตัว “a” เป็นเสียง “แอะ” และตัว “t” เป็นเสียง “ท” (ออกเสียง เทอะ เบาๆ ใช้ปลายลิ้นกระทบฟันหน้าบน) และผสมเสียงกันเป็น “ค-แอะ-ท แคท” (ลองออกเสียง ค-แอะ-ท ซ้ำๆ เร็วๆ จะพบว่าสุดท้ายจะออกเสียงเป็น “แคท”) หลักการถอดรหัสเสียง และผสมเสียงแบบนี้แหละค่ะที่เรียกว่าโฟนิคส์นั่นเอง ซึ่งผู้เรียนจะต้องฝึกผสมเสียงพยัญชนะ สระต่างๆ ที่หลากหลายจนคล่องแคล่วโดยใช้หลักโฟนิคส์นี้ค่ะ

แล้วคำที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักโฟนิคส์ล่ะ มีไหม หลักโฟนิคส์ใช้อ่านหรือสะกดคำต่างๆ ได้เป็นส่วนใหญ่ แต่แน่นอนค่ะมีคำบางคำที่อ่านในรูปแบบเฉพาะที่ไม่ใช่ตามหลักโฟนิคส์ ซึ่งเราจะเรียกคำเหล่านี้ว่า “คำพิเศษ” หรือ “Special words” เช่น คำว่า watch หากอ่านตามหลักโฟนิคส์อ่านว่า ว-แอะ-ท-ช แวทช แต่จริงๆ แล้วอ่านว่า วอทช เพราะตัว “a” ที่ปกติเป็นเสียง “แอะ” พออยู่ในคำนี้ออกเป็นเสียง “เอาะ” เป็นต้น ซึ่งคำพิเศษนี้เด็กๆ จะได้เจอเมื่อเขาอ่านเยอะ อ่านมาก และฝึกสังเกตคำต่างๆ หากคุณครูหรือคุณพ่อคุณแม่ช่วยแนะนำด้วยเมื่อเด็กเจอคำพิเศษเหล่านี้ก็จะยิ่งดีค่ะเรียนแล้วได้อะไร การเรียนโฟนิคส์จะช่วยให้เด็กๆ ออกเสียงได้ถูกต้อง ทำให้พวกเขาสื่อสารภาษาอังกฤษได้ชัดเจน และสามารถอ่านเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถสะกดคำศัพท์ต่างๆ ได้ด้วยตัวเองอย่างคล่องแคล่วจากการรู้จักเสียงของตัวอักษรและเข้าใจหลักการผสมเสียง แม้ในช่วงแรกการเรียนแบบโฟนิคส์จะดูช้ากว่าการเรียนแบบท่องจำมาก เพราะเด็กต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจเสียงและหลักการผสมคำจากง่ายไปยาก ต้องฝึกซ้ำๆ เพื่อให้จำได้ และมีบทศึกษามากมายที่ยืนยันว่าเด็กที่เรียนการอ่านเขียนแบบนี้จะสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่านักเรียนทั่วไป และมีความแตกฉานทางภาษา รักการอ่าน การค้นคว้าหาความรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวเขาเองในอนาคตเรียนโฟนิคส์แล้วจะนำมาใช้ทันกับหลักสูตรแบบดั้งเดิมของโรงเรียนทั่วไปหรือเปล่า การเรียนโฟนิคส์นั้น จะเรียนแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงจะดูช้ากว่าการเรียนแบบท่องจำ เพราะเด็กๆ ไม่ว่าจะโตแค่ไหน เรียนระดับไหนก็ต้องมาเริ่มที่เสียง a b c … แล้วค่อยๆ หัดผสมเสียงจากง่ายก่อน ดังนั้น จะคาดหวังให้ใช้หลักโฟนิคส์สะกดคำยากๆ ได้เลยตามที่โรงเรียนให้การบ้านมาในช่วงแรกของการเรียนโฟนิคส์ก็อาจดูยากเกินไปสำหรับลูก เช่น ลูกเพิ่งเรียนการผสมเสียงสระตัว “a” เช่นคำว่า bat, hat, rat, mat หากจะให้สะกดคำว่า January โดยหลักโฟนิคส์เลย คงยังทำไม่ได้ แต่ในระยะยาวเมื่อลูกเรียนจบและได้มีการฝึกอ่านอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนว่าการเรียนโฟนิคส์จะช่วยส่งเสริมให้การอ่าน การสะกดคำต่างๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น และเข้าใจหลักการออกเสียง การอ่านเขียนอย่างแท้จริง จึงมีบทวิจัยออกมาหลายสำนักว่าหลักโฟนิคส์ช่วยให้เรียนภาษาอังกฤษได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่านักเรียนทั่วไปถึง 2-3 ปีหลักโฟนิคส์นี้เป็นการเรียนแบบใหม่ที่เพิ่งค้นพบหรือ หลักโฟนิคส์ เป็นหลักการอ่านเขียนที่เรียนกันมาตั้งแต่โบราณแล้ว แต่เมื่อราว 20-40 ปีที่ผ่านมาได้เลือนหายไป เนื่องจากมีทฤษฎีใหม่ที่บอกว่าการอ่านแบบโฟนิคส์นั้นยุ่งยาก กว่าจะแตกเสียง ผสมเสียง จนอ่านเป็นคำนั้นช้าไม่ทันใจ หันมาใช้วิธีเรียนแบบจำคำศัพท์เป็นคำๆ ที่เรียกว่า Whole Language ดีกว่าเพราะเร็วกว่ากันเยอะ โรงเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย จึงเลิกสอนโฟนิคส์ไปตามๆ กัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปีกลับพบว่าความสามารถในการอ่านเขียนของประชาชนต่ำลง เพราะคนเรานั้นจดจำคำศัพท์ได้จำกัด และการไม่รู้หลักการสะกดนั้นก็ทำให้อ่านได้ไม่คล่อง เมื่อเห็นคำยากหรือคำใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็ไม่อยากอ่าน ทำให้การอ่านค้นคว้าความรู้ต่างๆ ลดลงตามไปด้วย จึงมีฟื้นฟูการเรียนโฟนิคส์ให้นำกลับมาสอนอีกครั้งเพื่อให้เด็กๆ เข้าใจหลักการอ่านเขียนอย่างแท้จริง

ในประเทศออสเตรเลียมีโรงเรียนที่ยึดมั่นใช้การสอนตามหลักโฟนิคส์มาตลอดหลายสิบปีด้วยความเชื่อมั่นและปรากฏว่านักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้สามารถกวาดรางวัลการอ่าน การออกเสียง การเขียนเรียงความทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศได้จนมีชื่อเสียงไปทั่ว ทำให้เชื่อได้เลยว่าหลักโฟนิคส์เป็นประโยชน์สำหรับเด็กๆ อย่างแท้จริง

ผลจากการเรียนโฟนิคส์ของเด็กไทยเป็นอย่างไรบ้าง
เด็กๆ แม้แต่ระดับอนุบาลที่ได้เรียน ก็สนุกที่จะออกเสียงตัวอักษรต่างๆ ภาคภูมิใจที่ผสมคำได้ด้วยตนเอง และเมื่อกลับบ้านก็ยังชอบที่จะอ่านป้าย อ่านและสะกดคำต่างๆ ตามหลักที่ได้เรียนมา จะผิดบ้างถูกบ้างก็ไม่เป็นไรแต่เขาก็สนุกที่จะลองใช้ความรู้ที่เรียนมาไปกับคำรอบๆ ตัวที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการเริ่มต้นสร้างทัศนคติที่ดีในการออกเสียงและการอ่านเขียนตามหลักที่ถูกต้อง และจะช่วยพัฒนาการออกเสียงและการอ่านเขียนของพวกเขาอย่างมากในระยะยาว และสามารถต่อยอดไปสู่ทักษะอื่นๆ ที่สำคัญในอนาคต เช่น การเขียนเรียงความ เขียนบทความ การจับประเด็น จับใจความ คิดวิเคราะห์เนื้อหาอย่างเป็นเหตุผลด้วย

หากอยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ควรเรียนโฟนิคส์อย่างเดียวเลยหรือไม่
แม้โฟนิคส์จะเป็นความรู้และเป็นพื้นฐานที่ดีในการออกเสียงและการอ่านเขียน แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทักษะภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้น นอกจากโฟนิคส์แล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมปูพื้นฐานในเรื่องการฟัง การพูดภาษาอังกฤษของลูกให้ดีควบคู่กันไปด้วย เพราะเป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้กัน และต้องการการฝึกฝนเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อให้ฟังพูดได้คล่องแคล่ว แตกฉาน มั่นใจ และความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละทักษะยังสามารถนำมาเชื่อมโยงต่อยอดกันและกันได้ด้วย ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมว่าไม่ว่าจะเรียนอะไรก็ตาม ลูกๆ จะเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อพวกเขาเรียนรู้ด้วยความสนุกสนานค่ะ

Contact Us

ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์

เนอสเซอรี่สไตล์ญี่ปุ่น-เรียนสนุก คิดเป็น เน้นทักษะชีวิต-ร่มเกล้า ลาดกระบัง

  • 087 484 7887
  • www.kitamurahouse.com
  • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

Video Gallery - How to teach Blending to Read with Jolly Phonics

Kitamura House
วิธีการสอนตามแบบฉบับโยโคมิเนะเป็นวิธีที่ดึงความสามารถอันสูงสุดที่ติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด เพื่อเสริมสร้าง “พลังด้านการเรียน”, “พลังทางด้านร่างกาย”, “พลังทางด้านจิตใจ” โดยผ่านทาง “การอ่าน การเขียน การคำนวณ การออกกำลังกาย และดนตรี”
KITAMURA HOUSE ได้ License of Yokomine Method Japan หลักสูตรอัจฉริยะจากญี่ปุ่น ที่หาเรียนได้แล้วในเมืองไทย
Video
ชีวิตที่ได้รับจากฟากฟ้านั้นสุดแสนวิเศษ

คนเราไม่ได้ทำอะไรเป็นมาเลยตั้งแต่เกิด
เด็กจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อม (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คน)
เป็นคำพูดที่ตกทอดมาแต่โบราณที่ญี่ปุ่น
เด็กทุกคนเป็นอัจฉริยะ
ไม่มีเด็กคนไหนที่ทำไม่ได้
เพียงแต่บางคนอาจต้องใช้เวลา
เพียงแค่ให้เวลากับเขา
โดยเฉพาะช่วงเด็กเล็กจนถึง 6 ขวบ จะเป็นวัยสำคัญที่จะพัฒนาความสามารถ
ความสมดุลเป็นสิ่งสำคัญ
ฉะนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับพลังทั้ง 3 ด้าน ในช่วงวัยเด็ก
ซึ่งก็คือ “พลังทางด้านจิตใจ” “พลังทางด้านการเรียน” “พลังทางด้านร่างกาย”

นี่คือสิ่งที่ทางอาจารย์โยชิฟูมิ โยโกะมิเนะ ผู้คิดค้นการเรียนการสอนแบบโยโกะมิเนะ ขอฝากถึงผู้ปกครองทุกท่าน
天が与えた命は素晴らしい

生まれつきではありません。
子どもは環境(特に人)で育ちます。
日本には昔から氏より育ちという先人が残した言葉があります。
子どもは天才です。
できない子なんていません。
時間がかかる子はいます。
時間をかければいいだけ。
特に6歳までの時期が大事で可能になる時期です。
バランスが大事。
幼児期は“心の力”“学ぶ力”“体の力”
この3つを優先して取り組むべし。

ヨコミネ式教育法 横峯吉文先生からタイの保護者の皆様へ
kitamura
kitamura
kitamura

ปรัชญาโยโคมิเนะ

  • "เด็กทุกคนเป็นอัจฉริยะ ไม่มีเด็กคนไหนที่ใช้ไม่ได้"
  • "เด็กทุกคนจะเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ ต้องการทำให้พรสวรรค์นั้นได้เปล่งประกายออกมาให้ได้มากที่สุด"

วัตถุประสงค์

  • วัตถุประสงค์ขั้นสุดของหลักการเรียนการสอนแบบโยโคมิเนะคือ “การพึ่งพาตนเอง”
  • การพึ่งพาตนเองในที่นี้คือ “สามารถคิดเอง ตัดสินใจเอง ลงมือทำและฝึกฝนด้วยตัวเอง”
kitamura
kitamura
kitamura

พัฒนาเด็กตามแนวทางการทำให้อัจฉริยะภาพเบ่งบานของโยโกมิเนะ

  • 1) การทำได้เป็นเรื่องน่าสนุก
  • 2) พอสนุกแล้วก็อยากฝึกฝน
  • 3) พอฝึกฝนเรื่อยๆก็จะเก่ง
  • 4) เมื่อเก่งก็จะทำให้ชอบ
  • 5) และก็อยากพัฒนาในก้าวต่อๆไป
kitamura
kitamura
kitamura

Contact Us

ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์

เนอสเซอรี่สไตล์ญี่ปุ่น-เรียนสนุก คิดเป็น เน้นทักษะชีวิต-ร่มเกล้า ลาดกระบัง

  • 087 484 7887
  • www.kitamurahouse.com
  • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
kitamura house
สำหรับเด็กผู้หญิงแล้ว การใส่ชุดที่มีระบายฟูฟ่อง ได้หมุนตัวประกอบเสียงเพลงนั้น ให้ความรู้สึกเหมือนกับได้เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ประกอบกับการเรียนบัลเลต์นั้นมีประโยชน์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจหลายอย่าง คุณพ่อคุณแม่จึงอยากจะสนับสนุน แต่ถ้าหากคุณพ่อ คุณแม่ท่านใด ที่กำลังลังเลว่าจะส่งลูกไปเรียนบัลเลต์ดีหรือไม่นั้น วันนี้เรานำข้อดีและข้อมูลเบื้องต้นมาฝากกันค่ะ

12 ข้อดีของการให้ลูกไปเรียนบัลเล่ต์

  1. ลูกเป็นเด็กกล้าแสดงออก : เมื่อลูกได้ทำในสิ่งที่รักเขาจะทำได้ดี หากลูกเป็นเด็กขี้อาย การฝึกซ้อมบ่อยๆ จะทำให้เขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
  2. บุคลิกภาพดี : หากลูกเป็นเด็กที่ขาโก่ง การเรียนบัลเลต์ก็ช่วยได้ นอกจากนี้ เวลา เดิน นั่ง ยืน หลังก็ตรง ทำให้ดูสง่าผ่าเผย
  3. ลูกมีสมาธิดี : เพราะต้องคอยฟังเสียงและจับจังหวะของดนตรี และช่วยให้รักเสียงเพลงด้วย
  4. สุขภาพดี : ลูกมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่น
  5. อารมณ์ดี : ช่วยให้ลูกใจเย็น ละเป็นเด็กที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
  6. เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน : ลูกรู้สึกผ่อนคลายจากการเรียน
  7. ลูกมีสังคมใหม่ๆ : เช่น เพื่อน และ ครู
  8. ฟังคำสั่งและปฏิบัติตามคำสั่งครูได้
  9. ฝึกทักษะความจำ : โดยการดูครูเต้นแล้วทำตาม
  10. ลูกมีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม
  11. เปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นพบความถนัดของตนเอง
  12. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

โดย ครูซาย ทีมงานครูกิ๊บสถาบันแดนซ์มีอัพ

ประวัติครูซาย
  • นางสาวมุฑิตา เดชวัฒนุสกรี (ครูซาย) อายุ 25ปี
  • จบการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ1 จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏยศิลป์ตะวันตก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • จบบัลเล่ต์ หลักสูตร RAD Grade 8 (Highest Grade) ด้วยคะแนนเหรียญทอง และเรียนต่อในขั้นอาชีพ จนถึง ระดับAvance
  • มีประสบการณ์สอนบัลเล่ต์ และ Jazz มาเกือบ 9 ปี (ตั้งแต่ปี 2551)
kitamurahouse

เกณฑ์รับสมัครเด็ก

  • รับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ขวบ - 11 ขวบ
  • มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง
  • มีพัฒนาการที่สมวัย/ทางสถาบันจะคัดกรองพัฒนาการเบื้องต้น หากมีภาวะพัฒนาการล่าช้า ทางสถาบันจะแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก
  • ในวันสมัครผู้ปกครองนำเด็กมาพร้อมหลักฐานและเอกสารดังต่อไปนี้

  • สูติบัตร / รูปถ่าย
  • สำเนาบัตรประชาชนบิดา / มารดา
  • สำเนาทะเบียนบ้านบิดา / มารดา และ บุตร
  • สำเนาบัตรประชาชนผู้ที่บิดา/มารดาอนุญาตให้มารับเด็กแทนได้
  • สำเนาบัตรประกันอุบัติเหตุ/สุขภาพ
  • สำเนาประวัติสุขภาพและการฉีดวัคซีน
  • Contact Us

    ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์

    เนอสเซอรี่สไตล์ญี่ปุ่น-เรียนสนุก คิดเป็น เน้นทักษะชีวิต-ร่มเกล้า ลาดกระบัง

    • 087 484 7887
    • www.kitamurahouse.com
    • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
    kitamura house
    ดนตรี เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่จะช่วยพัฒนาบุคลิกภาพ อารมณ์  ความมั่นใจในการแสดงออก การเรียนดนตรีกลุ่มช่วยเสริมสร้าง ความสามารถในการเข้าสังคม นอกจากนี้เด็กๆยังสามารถ สร้างความสุขจากเสียงเพลงให้กับตนเอง หรือแสดงเพื่อมอบเป็น ของขวัญที่ล้ำค่าให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย
    ที่คิตามููระเฮ่้าส์ เรามีครูมืออาชีพที่สอนวิชาดังต่อไปนี้

    , 1. ขับร้องเดี่ยว/ร้องเพลงประสานเสียง
    2. ไวโอลินเดี่ยว/กลุ่ม, เชลโล
    3. เปียโน/เมโลเดียน
    4. กีต้าร์/ อูคูเลเล่/ เบส
    5. กลองชุด
    6. ทฤษฎีดนตรี
    7. พื้นฐานดนตรีสำหรับเด็กเล็ก

    Contact Us

    ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์

    เนอสเซอรี่สไตล์ญี่ปุ่น-เรียนสนุก คิดเป็น เน้นทักษะชีวิต-ร่มเกล้า ลาดกระบัง

    • 087 484 7887
    • www.kitamurahouse.com
    • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
    Kitamura House
    Denver II Child Development Screening เป็นการประเมินพัฒนาการรอบด้าน ทั้งพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เล็ก พัฒนาการทางภาษา ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง พร้อมทั้งคัดกรองปัญหาด้านพฤติกรรม และ ภาวะเอ็นข้อต่อหย่อนด้วย
    Video

    Denver II ประกอบด้วยข้อทดสอบ 125 ข้อ แบ่งเป็น 4 ด้าน คือ

    • ด้านสังคมและการช่วยตนเอง หมายถึง การมีความสัมพันธ์และใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลอื่นๆ กับการดูแลตนเองในกิจวัตรประจำวัน
    • ด้านใช้กล้ามเนื้อเล็กและปรับตัว หมายถึง การทำงานประสานกันระหว่างกล้ามเนื้อมือและตา การจัดการกับของชิ้นเล็ก และการแก้ไขปัญหา
    • ด้านภาษา หมายถึง การได้ยิน ความเข้าใจภาษา และการใช้ภาษา
    • ด้านใช้กล้ามเนื้อใหญ่ หมายถึง การทรงตัว และการเคลื่อนร่างกาย เช่น การนั่ง การเดิน การกระโดด และการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใหญ่ทั้งหมด
    นอกจากนี้หลังการทดสอบยังมีการบันทึกพฤติกรรมระหว่างทดสอบ 5 ข้อ ซึ่งทำให้ผลการทดสอบเป็นประโยชน์และแม่นยำมากขึ้น ได้แก่
    • เด็กเป็นเหมือนเช่นทุกวัน ใช่ หรือ ไม่ใช่
    • ความร่วมมือ ดีมาก พอควร หรือ น้อย
    • ความสนใจสิ่งแวดล้อม สนใจดี สนใจบ้าง หรือ ไม่สนใจเลย
    • ความกลัว ไม่กลัว กลัวเล็กน้อย หรือ กลัวมาก
    • ระยะความสนใจ เหมาะสมกับวัย เบี่ยงเบนความสนใจค่อนข้างง่าย หรือ เบี่ยงเบนความสนใจง่ายมาก
    พัฒนาการ (Development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพหรือประสิทธิภาพของการทำหน้าที่ การเฝ้าระวังพฤติกรรมพัฒนาการของเด็กวัยต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในเด็กปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 6 ปี
    เพื่อจะได้ทราบว่าเด็กมีระดับความสามารถด้านต่างๆ เป็นอย่างไร สมวัยหรือไม่เพื่อจะได้แนะนำบิดามารดา ผู้เลี้ยงดูให้อบรมเลี้ยงดูและจัดสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมกับความสนใจและความสามารถของเด็ก ทำให้เกิดโอกาสเรียนรู้และพัฒนาได้ครบทุกด้านอย่างสมดุลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและสังคม เด็กจะได้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ ในกรณีที่พบว่าเด็กมีพัฒนาการผิดปกติ จะได้ตรวจวินิจฉัยช่วยเหลือแก้ไขแต่เริ่มแรก

    สำหรับการทดสอบพัฒนาเพื่อคัดกรองอย่างเป็นระบบ (Developmental screening) จะต้องใช้เครื่องมือทดสอบคัดกรองพัฒนาการที่มีมาตรฐาน ผู้ทดสอบจะต้องได้รับการอบรมและผ่านการรับรองว่าเข้าใจเนื้อหาสาระพัฒนาการเด็ก สามารถทดสอบและสังเกตพฤติกรรมของเด็กและแปลผลอย่างถูกต้องตามคู่มือการทดสอบที่เป็นมาตรฐาน
    Kitamura House
    Kitamura House
    Kitamura House

    โครงการทดสอบพัฒนาการเด็กปฐมวัย

    ขอเชิญผู้ปกครองทุกท่านนำบุตรหลาน อายุ 6 เดือน – 6 ปี เข้าร่วม
    โดย Mr. Hideo Kitamura เพื่อให้ทราบถึงพัฒนาการของลูกรักพร้อมรับบริการให้คำปรึกษาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย
    Mr. Kitamura ได้ License ผู้ทดสอบพัฒนาการเด็กปฐมวัยด้วยแบบทดสอบ Denver II เพื่อใช้คัดกรองเด็กที่พัฒนาการล่าช้า อายุ 6 เดือน- 6 ปี
    เป็นการประเมินพัฒนาการรอบด้าน ทั้งพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เล็ก พัฒนาการทางภาษา ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง พร้อมทั้งคัดกรองปัญหาด้านพฤติกรรม และ ภาวะเอ็นข้อต่อหย่อนด้วย

    วันจันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00

    โปรโมชั่นพิเศษ
    จากอัตราปกติ 1290 บาท เหลือเพียง 990 บาทเท่านั้น
    Kitamura House
    Kitamura House
    Kitamura House

    Contact Us

    ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยนานาชาติคิตามูระเฮ้าส์

    เนอสเซอรี่สไตล์ญี่ปุ่น-เรียนสนุก คิดเป็น เน้นทักษะชีวิต-ร่มเกล้า ลาดกระบัง

    • 087 484 7887
    • www.kitamurahouse.com
    • 98/36 หมู่บ้าน มายด์ ฮอฟฟ์ (ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ) ถนน ร่มเกล้า แขวง คลองสามประเวศ เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

    Admission

    เด็กต้องการ การเลี้ยงดูเชิงบวก
    เพื่อเขาจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพที่เป็นประโยชน์ต่อโลกได้

    Facility Visit Inquire and apply

    Map